ง่ายนิดเดียว! วิธีการ ถ่ายเซลฟี่ให้ดูดี

3 ส่วนประกอบ

โพสท่าจัดฉากเพื่อเซลฟี่ที่ดีกว่าเดิมการอัพโหลดและจัดการกับเซลฟี่

การถ่ายรูปตัวเองหรือเซลฟี่เป็นวิธีการสนุกๆ อย่างหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นความมั่นใจ บุคลิกภาพ และรสนิยมทางแฟชั่นของคุณ ตั้งแต่ประธานาธิบดีไปจนถึงนักแสดงที่ได้รับรางวัล แทบจะทุกคนก็ถ่ายเซลฟี่กันทั้งนั้น อย่าเพียงแค่เล็งกล้องไว้ตรงหน้าแล้วถ่ายโดยไม่เตรียมการก่อน การถ่ายเซลฟี่นั้นมีศิลปะในตัว ลองมาถ่ายรูปเซลฟี่ที่เพื่อนๆ จะต้องชอบเวลาคุณอัพโหลดรูปถ่ายของคุณกัน

โพสท่า

1

หามุมที่ดี. แทนที่จะถ่ายรูปหน้าตรงๆ ลองเปลี่ยนดูหลายๆ มุมให้เห็นใบหน้าคุณหลายๆ รูปแบบ ถ้าคุณเอียงศีรษะไปทางซ้ายหรือขวาสักเล็กน้อย ใบหน้าคุณจะดูมีมิติมากขึ้น ถือกล้องให้สูงกว่าศีรษะเล็กน้อย กดกล้องลงมาเพื่อช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้นและดูจมูกไม่บาน และนี่คือไอเดียต่างๆ ในการหามุมเหมาะๆ ของคุณ:

• หา "มุมเด็ด" ของตัวเอง ถ่ายรูปจากด้านที่ทำให้หน้าของคุณดูสมดุลและสมมาตร
• การถ่ายรูปจากด้านบนเพื่อถ่ายใบหน้าและหน้าอกจะไปเน้นร่องอกของคุณเพราะท่านี้ไม่เป็นธรรมชาติ คุณก็รู้อยู่แล้วว่ากล้องจะโฟกัสที่จุดไหนเวลาคุณถ่ายรูปมุมนี้นะ

2

โชว์อะไรใหม่ๆ. ถ้าคุณจะถ่ายเซลฟี่เพื่ออวดผมทรงใหม่หรือตุ้มหูคู่ใหม่ จัดวางองค์ประกอบภาพให้สิ่งที่คุณอยากโชว์นั้นโดดเด่น

3

อย่าลืมยิ้มและดูร่าเริง การทำหน้าเศร้าหรือหน้าบึ้งนั้นไม่ดีเลย

• ยกตัวอย่างเช่น การอวดผมทรงใหม่ คุณควรจะหามุมเพื่อโชว์ทรงผมที่เจ๋งที่สุด เช่นเดียวกัน การโชว์หนวดก็ควรจะให้เห็นชัดเจน การโชว์แว่นตาอันใหม่ก็เช่นกัน
• คุณสามารถถ่ายเซลฟี่ตอนถือของที่เพิ่งซื้อมาไว้ในมือด้วยก็ได้ หรือถ่ายกับอาหารที่กำลังจะทานก็ยังได้

4

เน้นที่จุดเดียว. หากคุณจะถ่ายรูปแบบซูมใกล้ๆ ใบหน้า ลองแต่งหน้าให้เด่นเพียงจุดเดียว ซึ่งควรจะเป็นจุดที่คุณพอใจที่สุด

• ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณชอบดวงตาของตัวเอง ปัดมาสคาร่าหรือทาอายแชโดว์เข้าไป ในขณะที่แต่งหน้าทาปากในโทนธรรมชาติ
• เช่นเดียวกัน รอยยิ้มของคุณนี่แหละที่เป็นส่วนที่มีเสน่ห์ที่สุด คุณอาจจะแต่งตาและแก้มให้เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ทาลิปสติกสีสวยแจ่ม

5

มีการแสดงออกที่น่าสนใจ. คุณจะไม่มีทางพลาดกับการยิ้มแน่นอน การยิ้มให้กล้อง หรือกล้องในโทรศัพท์ มันอาจจะฟังดูงี่เง่านิดหน่อย แต่การถ่ายรูปตัวเองเล่นๆ ด้วยโทรศัพท์ก็เป็นเรื่องตลกในตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าคุณเป็นคนจริงจัง ก็อาจจะวางท่าที่เจ๋งๆ แบบไม่แสดงอารมณ์ก็ได้

• คุณสามารถลองยิ้มดูหลายๆ แบบ การยิ้มเขินๆ แบบปิดปากก็ดูเหมาะสมและดูดีเช่นเดียวกับการฉีกยิ้มกว้าง ไม่ว่าอย่างไร การยิ้มคือสิ่งที่ควรทำและมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว
• อาจจะยากสักหน่อยที่จะทำให้การแสดงอารมณ์ดูจริงใจ วิธีหนึ่งที่จะทำให้ดูจริงใจขึ้นก็คือถ่ายรูปตัวเองขณะที่กำลังรู้สึกอย่างนั้น ลองถ่ายเซลฟี่ขณะที่ดูหนังตลก หรือถ่ายรูปตัวเองหลังจากเพิ่งรู้เรื่องน่าตกใจมา

6

ถ่ายภาพแบบเต็มตัว. ถ้าคุณต้องการโชว์ชุดใหม่หรือหุ่นเป๊ะของคุณหลังจากการไดเอท คุณจะต้องยืนหน้ากระจกเต็มตัวเพื่อถ่ายภาพตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ในกรณีนี้ ใบหน้าของคุณจะไม่ใช่จุดโฟกัสของภาพ

• ถ่ายภาพเต็มตัวในที่ที่ไม่รก ภาพควรจะโฟกัสที่รูปร่างของคุณ ไม่ใช่ข้าวของที่อยู่ด้านหลัง
• คุณจะดูผอมลงได้ด้วยการดันสะโพกไปทางเดียวกับมือที่คุณถือกล้อง ไหล่ฝั่งตรงข้ามจะออกมาด้านหน้าเล็กน้อย และคุณอาจจะใช้มือที่ว่างอยู่วางบนสะโพก หรือปล่อยสบายๆ หน้าอกควรจะโน้มมาด้านหน้าตามธรรมชาติ ส่วนขานั้นควรจะไขว้กันเล็กน้อย

7

ถ่ายแบบธรรมชาติ. คุณสามารถถ่ายรูปตัวเองในแบบที่ทุกคนเห็นคุณก็ได้ แต่การถ่ายรูปตัวเองแบบผมยุ่งๆ เพิ่งตื่นนอน หรือแต่งหน้าเบาๆ ก็สามารถทำให้คนในสื่อสังคมออนไลน์คิดว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณนั้นทั้งน่าสนใจและเซ็กซี่

• ถ้าทรงผมเพิ่งตื่นนอนของคุณเป็นเหมือนฝันร้ายมากกว่าฝันดี คุณอาจจะจัดทรงสักหน่อย คุณอาจจะแต่งหน้าสักเล็กน้อยแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้าคุณแต่งหน้าเยอะๆ อยู่ตลอดเวลา

8

ถ่ายรูปรองเท้าของคุณ. คุณอาจจะอยากถ่ายรูปเท้าตัวเองถ้าเพิ่งซื้อรองเท้าคู่ใหม่มา หาองศาของกล้องที่จะทำให้ขาดูเรียวยาวไปถึงเท้า

• เล็งกล้องลงไปที่เท้า บริเวณต้นขาใกล้ๆ สะโพกควรจะอยู่ขอบรูปภาพ มุมนี้จะทำให้ขาดูยาว

9

คุณต้องรู้ว่าการโพสท่าไหนที่หมดยุคไปแล้ว. มีท่าโพสสำหรับเซลฟี่บางท่าที่เคยเป็นที่นิยม แต่ตอนนี้หมดยุคไปแล้ว คุณอาจจะลองนำกลับมาประยุกต์ใช้ดู แต่ก็ต้องทำให้คนรู้ว่าคุณกำลังเล่นขำๆ ท่าโพสเหล่านั้นคือ การทำปากจู๋ การทำท่าเบ่งกล้าม การแกล้งหลับ การแกล้งทำเหมือนว่าโดนแอบถ่าย เป็นต้น

• การทำหน้าเหมือนเป็ด คือการทำปากจู๋และทำตาโต ท่านี้โด่งดังขึ้นมาได้เพราะสนุกกี้และเพื่อน (Snookie and friends) คุณต้องลองเสี่ยงดูแล้วล่ะ
• การถ่ายรูปตัวเองแล้วทำเหมือนมีคนอื่นถ่ายให้นั้นคงไม่ดีนัก เพราะจะมีบางอย่างในท่าทางที่คนจะดูออกและวิจารณ์คุณ ถ้าคุณถ่ายแบบนี้แต่คุณยิ้มสักหน่อยหรือขยิบตา คนก็จะรู้ว่าคุณตั้งใจถ่ายให้เป็นแบบนี้

จัดฉากเพื่อเซลฟี่ที่ดีกว่าเดิม

1

ใส่ใจในแสง. การมีแสงที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพทุกชนิด เซลฟี่ก็ไม่ต่างกัน ถ้าคุณถ่ายเซลฟี่ในห้องที่มีแสงน้อย หรือในห้องที่มีแสงไฟนีออนจ้าๆ ภาพก็จะออกมาไม่สวย แสงธรรมชาตินั้นจะออกมาสวยที่สุด ลองถ่ายเซลฟี่ใกล้ๆ หน้าต่างหรือถ่ายกลางแจ้ง ลองจำสิ่งเหล่านี้ไว้ขณะถ่ายภาพ:

• ให้ดวงอาทิตย์หรือจุดกำเนิดแสงอยู่ด้านหน้าของคุณ เหนือดวงตาเล็กน้อย เพื่อภาพที่สวยที่สุด แสงจะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูสว่างและนุ่มนวลขึ้น มากกว่าที่จะทำให้เกิดเงาพาดบนหน้า หากแสงอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังตัวคุณ ภาพของคุณจะมืดและดูผิดเพี้ยน ^[2]
• ลองใช้ผ้าม่านบางๆ เพื่อกันแสงอาทิตย์หรือแสงไฟ จะทำให้แสงดูนวลขึ้นและน่ามองขึ้น ใบหน้าของคุณจะดูนุ่มนวล รอยยิ้มของคุณจะได้ดูดึงดูดมากกว่าเดิม
• แสงธรรมชาติทำให้สีภาพออกมาจริงกว่าแสงไฟ แต่คุณอาจใช้แสงไฟเพื่อสร้างเงาได้ ถ้าคุณไม่สามารถจัดแสงดีๆ ได้ กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ นั้นมีการแก้ไขสีอัตโนมัติที่ช่วยชดเชยได้
• อย่าใช้แฟลชถ้าไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เกิดแสงสะท้อนที่หน้าผาก ทำให้หน้าดูบิดเบี้ยวและอาจจะทำให้เกิดตาแดงในรูป

2

ใช้กล้องด้านหลังโทรศัพท์มือถือ. โทรศัพท์หลายรุ่นอาจจะมีสองกล้อง คือ กล้องหน้าและกล้องหลัง แทนที่จะใช้กล้องหน้าถ่ายเซลฟี่ คุณควรใช้กล้องหลังในการถ่ายภาพ เพราะกล้องหลังสามารถถ่ายภาพที่คมชัดกว่ากล้องหน้าซึ่งอาจจะออกมาเบลอได้ คุณจะต้องหันโทรศัพท์ไปอีกด้านและไม่สามารถเห็นใบหน้าตัวเองขณะถ่ายภาพ แต่มันก็คุ้มกับความลำบากในการถ่ายด้วยกล้องหลัง

3

อย่าใช้กระจกนอกเสียจากว่าไม่มีทางอื่นแล้วที่จะถ่ายรูปที่ต้องการ. ภาพในกระจกนั้นจะกลับด้าน คุณจะเห็นกล้องในกระจก และเป็นไปได้ว่าจะมีแสงสะท้อนแปลกๆ ในภาพ นอกจากนั้น ภาพของคุณอาจจะไม่เหมือนจริง เพราะกระจกไม่ได้สะท้อนภาพที่สมบูรณ์แบบเสมอ ยืดแขนของคุณออกมา ใช้ข้อมือบิดกล้องให้หันมาทางหน้าของคุณแล้วถ่าย อาจจะต้องอาศัยการฝึกซ้อมสักหน่อย แต่ในที่สุดคุณก็จะรู้องศากล้องที่จะเก็บภาพใบหน้าของคุณได้ทั้งหน้า (และไม่ตัดหัวของคุณออก)

• ข้อยกเว้นคือเมื่อคุณต้องการถ่ายภาพเต็มตัว เพราะมันจะยากถ้าคุณจะถ่ายภาพที่มากกว่าศีรษะและไหล่โดยไม่ใช้กระจก
• ฝึกซ้อมโดยใช้ทั้งมือขวาและมือซ้ายในการถ่ายเซลฟี่ ลองดูว่าคุณต้องใช้มือข้างไหนเพื่อได้มุมที่ต้องการ

4

ใส่ใจกับฉากหลังของภาพ. ภาพเซลฟี่ดีๆ นั้นต้องมีดีมากกว่าใบหน้า ในภาพควรจะมีฉากที่น่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพในห้องหรือกลางแจ้ง ลองตรวจดูรอบๆ ว่าฉากของคุณคืออะไร เลือกฉากที่คนจะอยากเห็น

• ธรรมชาตินั้นเป็นฉากที่ดูดีเสมอ ในฤดูร้อน คุณอาจจะถ่ายภาพคุณในสวนหรือใกล้ๆ ดอกไม้บานหากคุณต้องการฉากง่ายๆ และรวดเร็ว ในฤดูใบไม้ร่วง คุณอาจจะใช้ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง และหากคุณไปเที่ยวในฤดูหนาวคุณอาจจะถ่ายกับน้ำแข็งและหิมะ
• หากธรรมชาตินั้นไม่ใช่แนวของคุณ คุณอาจจะถ่ายภาพตัวเองในห้องโดยจัดห้องให้เรียบร้อย หาอะไรมาวางเป็นฉากหลังโดยไม่ให้สิ่งนั้นดึงความสนใจจากรูปของคุณ เช่น ถ้าคุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะใช้ชั้นวางหนังสือ หรือหนังสือเป็นตั้งๆ เป็นฉากหลัง แต่สำหรับโปสเตอร์หนังที่มีรูปคนเยอะๆ นั้นอาจจะดูรกเกินไป

5

ระวังโดนโฟโต้บอมบ์. ผู้ร้ายสำหรับการถ่ายเซลฟี่ของคุณคือ น้องเล็กของคุณ เด็กที่กำลังร้องไห้ สุนัขที่กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่บนสนามด้านหลังคุณ เป็นต้น ก่อนจะถ่ายเซลฟี่ มองไปรอบๆ ตัวให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ หรือไม่มีใครแอบอยู่รอจังหวะโผล่มาแกล้งคุณ

• แน่นอน ถ้าคนบางคนยังหาจังหวะโผล่มาในรูปของคุณได้ คุณก็สามารถถ่ายรูปนั้นใหม่ได้หลังจากเขาไปแล้ว แต่อย่าลืมเช็ครูปก่อนที่คุณจะอัพโหลด
• บางครั้งโฟโต้บอมบ์ก็ทำให้รูปดูเจ๋งได้ อย่าลดคุณค่าของรูปนั้นเพียงเพราะว่ารูปนั้นติดน้องสาวของคุณมาด้วย หน้าตลกๆ ของเธอที่ขัดแย้งกับใบหน้าซีเรียสของคุณอาจจะทำให้รูปดูน่าสนใจขึ้นได้
• หากคุณไม่อยากถ่ายรูปใหม่อีกรอบ คุณสามารถกำจัดโฟโต้บอมบ์ออกโดยการใช้โปรแกรมแต่งรูป หรือเพียงตัดรูปออกโดยใช้ฟังก์ชันการแต่งภาพที่มากับโทรศัพท์

6

ชักชวนคนอื่นมาอยู่ในรูปด้วยกัน. กฎแรกของการถ่ายเซลฟี่ก็คือคุณจะต้องอยู่ในภาพ แต่ไม่มีกฎข้อไหนบอกสักหน่อยว่าคุณจะต้องอยู่คนเดียว ชวนเพื่อน พี่น้อง สุนัขของคุณ หรือคนอื่นๆ มาถ่ายรูปด้วยกัน ภาพจะไม่ได้ดูเหมือนถูกจัดแต่งมากเกินไป แต่จะได้น่าสนใจและสนุกสนานมากขึ้นสำหรับคนที่มาดูรูปของคุณ^[3]

• นี่เป็นวิธีที่ดีในการถ่ายเซลฟี่ในที่สาธารณะหากคุณไม่มั่นใจพอที่จะถ่ายรูปตัวเองคนเดียว
• ยิ่งมีคนในภาพมาก ยิ่งดีต่อการแชร์ภาพ หากคุณมีรูปของกลุ่มเพื่อน แทนที่จะมีแค่คนหรือสองคน รูปก็จะเป็นที่นิยมมากกว่า มีคนมากดไลค์มากกว่า

การอัพโหลดและจัดการกับเซลฟี่

1

ทดลองใช้ฟิลเตอร์ต่างๆ. คนส่วนใหญ่ที่ชอบถ่ายเซลฟี่มักจะมีแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ที่สามารถใช้แต่งภาพให้น่าสนใจด้วยการแต่งสีหรือใส่ฟิลเตอร์ แต่ก็ใช่ว่าทุกฟิลเตอร์จะเหมาะกับรูปแต่ละรูป ลองเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะเลือกอันที่ดีที่สุด

• ฟิลเตอร์ที่ง่ายที่สุดคือ ฟิลเตอร์ขาวดำ และซีเปีย แม้จะไม่มีแอพแต่งภาพคุณก็น่าจะมีฟิลเตอร์นี้อยู่ในโทรศัพท์อยู่แล้ว
• ฟิลเตอร์ที่นิยมอื่นๆ ก็ได้แก่แบบวินเทจ แบบน่ากลัว แบบโรแมนติก หรือแบบมืดหม่น ลองใช้ไปเรื่อยๆ แล้วดูว่าอันไหนเหมาะกับภาพของคุณที่สุด

2

แต่งรูปของคุณ. ถ้าคุณมีโปรแกรมแต่งรูป คุณก็จะสามารถลบรอยสิวหรือสิ่งไม่พึงประสงค์ออกจากรูปได้ก่อนที่จะอัพโหลดลงบนโซเชียลมีเดีย คุณอาจจะตัดพื้นหลังบางส่วนออก ปรับขนาดภาพให้พอดีกับใบหน้า ปรับแสง และอื่นๆ การแต่งภาพสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีแอพก็ได้ แต่คุณก็ควรจะลองดูแอพหลายๆ แอพที่จะได้ใช้แต่งภาพของคุณ

• คุณควรจะแต่งภาพอย่างพอดี หากคุณแต่งภาพแบบธรรมชาติไม่ได้ ก็ลองแก้ไขดูดีกว่าอัพโหลดรูปที่ดูปลอมจนเห็นได้ชัด

3

อัพโหลดรูปของคุณ. แชร์เซลฟี่ของคุณลองบนเฟสบุค ทวิตเตอร์ สแนปแชท และอินสตาแกรมเพื่อให้เพื่อนๆ ของคุณได้เห็น โดยปกติแล้วคุณสามารถเขียนแคปชั่นเพื่ออธิบายภาพได้ หรือคุณอาจจะอยากให้รูปภาพนั้นอธิบายตัวเอง

• เวลาอัพโหลดเซลฟี่ คุณควรมั่นใจกับมัน อย่าไปแกล้งทำเป็นเหมือนเรื่องบังเอิญเพราะจะไม่มีใครเชื่อคุณ ดังนั้นคุณควรภูมิใจที่จะโชว์ใบหน้าของคุณ
• คุณควรทราบว่าบางคนเห็นว่ารูปเซลฟี่นั้นน่ารำคาญ คุณอาจจะได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ ถ้าในอัลบั้มของคุณมีแต่เซลฟี่ คุณก็ควรจะทำให้รูปมีหลากหลาย
• อย่าลืมคอมเม้นภาพเซลฟี่ของคนอื่นในแบบที่คุณชอบ ยิ่งคุณไลค์หรือคอมเม้นรูปคนอื่นคุณก็จะได้รับอย่างเดียวกัน

4

ติดตามเทรนด์. รูปเซลฟี่กลายเป็นเรื่องฮอตฮิตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ และได้กลายเป็นเรื่องสนุกที่จะติดตามกระแสเซลฟี่ว่าเซลฟี่แบบไหนกำลังเป็นที่นิยม อย่าอายที่จะอัพโหลดภาพแบบนั้น นี่คือตัวอย่างของเซลฟี่ที่คนนิยม:

• ย้อนหลังวันวาน (Throwback Thursday): ทุกๆ วันพฤหัส คนมักจะโพสต์รูปภาพตัวเองในอดีต คุณอาจจะลองขุดหารูปสมัยเด็กๆ หรืออาจจะโพสต์รูปจากสัปดาห์ที่แล้วก็ได้
• จากจุดที่ฉันยืนอยู่ (From Where I Stand): แฮชแทคนี้สร้างขึ้นโดยกลุ่มคนที่อยากจะแบ่งปันรูปจากมุมมองของพวกเขา ถ่ายภาพเท้าของคุณเวลาคุณไปเยือนประเทศใดก็ตามเป็นครั้งแรก บนชายหาด บนทางเดิน หรือที่ใดก็ได้ที่คุณอยากแชร์^[4]
• เซลฟี่เพื่อสิทธิสตรี (Feminist Selfie): กระแสนี้กำลังแพร่หลายในทวิตเตอร์ โดยเป็นการแสดงความภูมิใจที่จะโพสต์รูปภาพของตัวเองถึงแม้คุณจะไม่ได้สวยเพอร์เฟคก็ตาม ความงามนั้นมีอยู่ในรูปร่างทุกๆ แบบ
• ผมยิ้มได้ (Hair Smile): กระแสนี้เป็นการโชว์ทรงผมของคุณล้วนๆ หากคุณคิดว่าทรงผมนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของคุณ ก็ลองถ่ายรูปเซฟลี่ทรงผมตัวเองแทนที่จะยิ้มดูสิ

5

ตรวจดูให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นเหมาะสม. สถานที่บางที่ก็ไม่สมควรจะถ่ายรูปเซลฟี่ เช่น งานศพ หรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่แล้วสถานที่เหล่านี้ก็เป็นไปตามสามัญสำนึกทั่วไป แต่สำหรับกฎทั่วไปแล้ว คุณควรลองถามตัวเองก่อนที่จะถ่ายเซลฟี่ว่ามันจะทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า หากคำตอบคือใช่ ก็รอก่อนแล้วค่อยถ่ายทีหลัง^[5]

• งานศพ พิธีแต่งงาน หรืองานใหญ่ๆ สำคัญแบบนี้เป็นข้อห้ามของการถ่ายเซลฟี่ หากคุณต้องจดจ่อกับงานฉลองของคนอื่น คุณควรจะวางโทรศัพท์ลงแล้วให้ความสำคัญกับงานนั้น
• เช่นเดียวกัน หากคุณอยู่ในสถานที่อย่างอนุสรณ์สถาน คุณควรจะเก็บโทรศัพท์ของคุณไว้ อย่าถ่ายเซลฟี่ที่อนุสาวรีย์หรือรูปปั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเคยมีเหตุโศกนาฏกรรมที่นั่นมาก่อน

แหล่งที่มา  http://th.wikihow.com